
ถั่งเช่า เหมาะกับใคร?
“ถั่งเช่า” ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดหรือราชาของสมุนไพรทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ด้วยสรรพคุณที่โดดเด่นทางยาและสารต่างๆ ที่ล้วนแต่มีประโยชน์กับร่างกายมากมาย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่หายากและมีราคาแพงมากอีกด้วย ลองมาดูกันว่า ถั่งเช่าเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูง
- ผู้ที่มีไขมันในเลือดสุง
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มีโรคแทรกซ้อนต่างๆ จากน้ำตาลในเลือดสูง
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภูมิแพ้ หอบหืด
- ผู้สูงอายุ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ป่วยโรคไต
- ผู้ที่อยากมีสุขภาพดี
ประโยชน์ของถั่งเช่า
- เป็นยาบำรุงกำลัง นำถั่งเช่าไปผสมกับยาจีนเพื่อใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตที่ช่วยให้ไตกลับมาทำงานได้ดีขึ้น เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ทั่วร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด เสริมสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนอสุจิและบำรุงให้อสุจิแข็งแรง ทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ รวมทั้งเพิ่มออกซิเจนให้หัวใจอีกด้วย
- ลดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ ซึ่งถั่งเช่าจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดน้ำตาลที่จะเป็นผลดีกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยสามารถควบคุมน้ำตาลได้ถึง 95 %
- ลดผลกระทบจากสารพิษ ช่วยให้ตับแข็งแรง ป้องกันการเกิดพังพืด และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้แลดูแก่ช้า
- มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งในระยะลุกลามไม่ให้แพร่กระจาย ลดอาการข้างเคียง อาการอักเสบ และอาการอ่อนเพลียหลังจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด
วิธีใช้ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรทางยา
- ถั่งเช่าสีทอง ปริมาณการบริโภคคือไม่เกินวันละ 3 กรัม/คน/วัน
- กรณีที่ 1 แคปซูล บรรจุ 500 มิลลิกรัม ถั่งเช่าGevit รับประทานแค่เพียงวันละ 2 แคปซูล หรือสามารถดูสินค้าเพิ่มเติม ตรงนี้ได้เลย :
https://gevit.co/gevit-offer/
- กรณีที่เป็นดอกชนิดใช้ชง ก็ควรใช้ปริมาณไม่เกิน 1 กรัม/คน/ วัน หากต้องการรับประทานร่วมกันหลายคน ให้ชงไม่เกิน 3 กรัม

การรับประทานถั่งเช่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการของโรค ดูแลสุขภาพของและคนที่คุณรัก